เหมือนใจสลาย
ดิฉันตกใจมาก ได้ยินแล้วเหมือนใจสลาย คิดว่าเป็นโรคนี้แล้วต้องตาย ในใจมีแต่ความสงสัย ทำไมเราถึงเป็นทั้งที่เราไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ รับประทานแต่ของมีประโยชน์ หลังจากที่รู้สึกตกใจแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ ความกังวล แล้วลูกเราจะอยู่อย่างไรเพราะตอนนั้นลูกยังเล็ก กังวลว่าสามีจะอยู่ได้ไหมถ้าไม่มีเรา กังวลไปเสียทุกอย่าง แต่ทั้งสามี ครอบครัว ก็คอยให้กำลังใจและเตือนสติว่า เราจะต้องหาย ไม่ต้องกลัว เราจะต้องหาย ดิฉันจึงรวบรวมสติและครุ่นคิด ไตร่ตรองและลุกขึ้นสู้
.gif)
สู้เพื่อลูก
กำลังใจ เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้ดิฉัน ลุกขึ้นสู้ เพื่อจะรักษาตัวเองให้หายจากโรคร้ายนี้ ทำให้รู้สึกว่า กำลังใจ คือ “ยารักษาโรค” ที่ดีที่สุด ที่ทำให้เรามีแรงต่อสู้ ไม่ท้อแท้ ไม่สิ้นหวัง ไม่กลัวความตาย แต่พยายามทำทุกอย่างเพื่อการรักษาเพื่อให้ตนเองหาย “เพื่อลูก” ลูกเป็นกำลังใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ดิฉันเริ่มหันมาปรึกษาคุณหมออย่างจริงจัง และได้เข้ารับการผ่าตัด ในช่วงหลังการเข้ารับผ่าตัด ดิฉันได้หันไปศึกษาการแพทย์แบบผสมผสาน และลองหาข้อมูล ได้รู้จักกับยาจีนหลังจากที่ได้รับข้อมูลแล้วก็ได้ทราบว่า มันมียาที่ช่วยให้เรามีแรงต่อสู้กับมะเร็งได้ชื่อ ผลิตภัณฑ์เทียนเซียน จึงมีกำลังใจมากขึ้น จากการผ่าตัดคุณหมอบอกว่าเนื้อร้ายไม่ลุกลาม แต่ตรวจพบว่ามีค่า HER 2 POSITIVE (ติดยีนมะเร็งเฮอร์ทู) คุณหมอบอกว่ามีโอกาสเป็นซ้ำได้ จึงต้องให้ทำคีโม อีก 6 เข็ม ห่างกันประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากทำคีโมคุณหมอก็ให้ทานยา TAMOXIFEN (ทาม็อกซิเฟ่น - ยาต้านฮอร์โมน) อีก 5 ปี เพื่อควบคุมฮอร์โมนเอสโตรเจน ไม่ให้มะเร็งลุกลามได้อีก
หลังจากที่ดิฉันต้องเผชิญกับการเป็นมะเร็งร้าย ชีวิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ดิฉันหันมาปรุงอาหารทานเอง ใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หันมาพึ่งธรรมะเพื่อบำบัดจิตใจ ให้จิตใจเราสงบ ไม่เครียด พยายามมองโลกในแง่ดี
สุดท้ายนี้ขอฝากไว้สำหรับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งทุกชนิด ถ้าเป็นแล้วไม่ต้องเสียใจ หรือท้อแท้ใจ ถ้าเรารู้จักที่จะอยู่ และรักษาตนเอง เป็นโรคที่เราสามารถควบคุมมันได้ รักษาให้หายได้ ถ้าเราเข้มแข็ง มีกำลังใจที่ดี มีสมาธิ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมอาหาร คิดแต่สิ่งดี ๆ เราก็จะอยู่บนโลกใบนี้ กับคนที่เรารักได้ยาวนาน