มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดูแลตัวเองอย่างไรดี

วันที่ 27-06-2025 | อ่าน : 6

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดูแลตัวเองอย่างไรดี
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง คือ เป็นการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของระบบต่อมน้ำเหลือง เกิดเป็นเนื้องอกของระบบน้ำเหลืองในร่างกาย ซึ่งระบบน้ำเหลืองก็เป็นระบบหนึ่งของภูมิคุ้มกัน ประกอบไปด้วย อวัยวะน้ำเหลือง ได้แก่ ม้าม และไขกระดูก

อาการเริ่มต้นของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

1. พบก้อนในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น คอ รักแร้ ขาหนีบ หรือ เต้านม โดยก้อนเหล่านี้มักจะม่มีอาการเจ็บ ซึ่งจะแตกต่างจากการติดเชื้อที่มีอาการเจ็บที่ก้อน
2. มีไข้ หนาวสั่น เหงื่อออกมากตอนกลางคืน หรือ มีอาการคันทั่วร่างกาย
3. เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ
4. ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก
5. ต่อมทอนซิลโต

ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองควรเลือกรับประทานอาหารอย่างไร

• โปรตีน

โปรตีนเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และ เสริมภูมิคุ้มกัน ให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โปรตีนที่แนะนำ ตัวอย่างเช่น ไข่ เนื้อปลา เต้าหู้ ถั่วต่าง ๆ อกไก่ไม่ติดหนัง เป็นต้น

• ผักผลไม้สด

ผัก และ ผลไม้เต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยฟื้นฟูระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยลดอาการอักเสบ และ เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ผักและผลไม้สดที่แนะนำ เช่น บรอกโคลี แครอท ฝรั่ง ส้ม กล้วย อโวคาโด เป็นต้น 

• คาร์โบไฮเดรต

การทานคาร์โบไฮเดรตจะช่วยให้พลังงาน ทำให้ร่างกายมีแรง เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต หรือ มันเทศ

• ไขมันดี

ไขมันดีจะช่วยดูดซึมวิตามิน และ บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ไขมันดีรับประทานได้จาก น้ำมันมะกอก

ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหนบ้าง

• อาหารกึ่งดิบกึ่งสุก การรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิได้ เช่น ไข่ดิบ เนื้อดิบ 
• อาหารหมักดอง เช่น กะปิ ปลาร้า ผักดอง 
• อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน
• อาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะ น้ำตาลอาจกระตุ้นการอักเสบและเป็นแหล่งพลังงานให้เซลล์มะเร็ง เช่น ขนมหวาน เบเกอรี่ น้ำอัดลม 
• อาหารเค็ม หรือ อาหารรสจัด เพราะ มีโซเดียมสูง และ โซเดียมส่งผลต่อความดันโลหิต และ การทำงานของไต เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเตี้ยว อาหารกระป๋อง
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ เครื่องดื่มคาเฟอีนมากเกินไป

เคล็ดลับการทานอาหารในช่วงการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง

• ใช้วิธีการทานน้อยบ่อยครั้ง โดยแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ  ทานทุก 2-3 ชั่วโมง
• หากมีอาการคลื่นไส้ ให้ทานอาหารรสอ่อน ย่อยง่านย เช่น ข้าวต้ม หรือ กล้วย
• หากเจ็บปากจากการรักษา เลือกทานอาหารนิ่ม และ เย็น เช่น โยเกิร์ต
• เตรียมอาหารสดใหม่ทุกมื้อ ล้างมือและอุปกรณ์ให้สะอาด

การดูแลร่างกายระหว่างอยู่ในช่วงการรักษา ”มะเร็งต่อมน้ำเหลือง”

ในระหว่างกระบวนการรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ไม่ว่าจะเป็นการให้เคมีบำบัด หรือการฉายแสงร่างกายของผู้ป่วยมักจะอ่อนแอลง ภูมิคุ้มกันต่ำลง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้มากกว่าปกติ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจึงความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้เร็ว ลดผลข้างเคียงจากการรักษา และส่งเสริมคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ป่วย

พักผ่อนให้เพียงพอ
ผู้ป่วยควรนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมง เนื่องจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือฉายแสงอาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลียหรือเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ ร่างกายที่ได้รับการพักผ่อนอย่างเหมาะสมจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

สังเกตสัญญาณผิดปกติ
หมั่นสังเกตตนเองว่ามีอาการอะไรที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น ไข้สูง หนาวสั่น ต่อมน้ำเหลืองโต ผื่นคัน หรือหายใจลำบาก หากพบอาการเหล่านี้ควรแจ้งแพทย์ทันที เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือผลข้างเคียงจากการรักษา

ออกกำลังกายตามความเหมาะสม
ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินช้า ๆ โยคะ หรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เป็นประจำ สามารถช่วยลดอาการเมื่อยล้าและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

หลีกเลี่ยงสิ่งที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
เช่น การสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่อาจมีเชื้อ การอยู่ในสถานที่แออัด หรือสัมผัสกับผู้ที่ป่วย

การดูแลผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ไม่ว่าจะเป็นด้านโภชนาการ การพักผ่อน ล้วนมีความสำคัญเพราะจะส่งผลกับการฟื้นตัวของร่างกาย และ ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา
 

ปรึกษามะเร็งฟรี

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลตนเอง หรือ การให้กำลังใจแบบถูกวิธีแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผ่านช่องทางการติดต่อของเรา

Facebook Fanpage: ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง
📞 เบอร์ติดต่อ: 087-678-6026

🌐 เว็บไซต์: https://www.siamca.com/

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง