การรักษามะเร็งด้วยคลื่นความถี่สูง Radiofrequency Ablation (RFA)
วันที่ 30-07-2012 | อ่าน : 11531
การรักษามะเร็งด้วยคลื่นความถี่สูง
Radiofrequency Ablation (RFA)
RFA เป็นวิธีการทำลายก้อนมะเร็งด้วยการใช้เข็มแบบพิเศษ (RF needle) ขนาดเท่ากับไส้ปากกาลูกลื่น ความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร แทงผ่านผิวหนังเข้าไปในก้อนมะเร็งเป้าหมาย โดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์หรือเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่วยนำทาง ต่อวงจรเข้ากับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า(generator) และตัวผู้ป่วยเป็นส่วนหนึ่งของวงจรด้วยการแปะแผ่นสายดิน (ground pad) ที่หน้าขาของผู้ป่วย
เมื่อปล่อยไฟฟ้ากระแสสลับจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า(generator) ขนาด 50-200 วัตต์ ผ่านเข้าไปในเข็ม ซึ่งส่วนปลายเข็มเป็นขั้วไฟฟ้า (Electrode) และใช้การเหนี่ยวนำไฟฟ้าจากเครื่อง ทำให้เกิดคลื่นความถี่สูงประมาณ 375-500 KHz จะทำให้โมเลกุลของเนื้อเยื่อรอบๆ เข็มสั่นสะเทือนและเสียดสีกันจนเกิดความร้อน (Friction heat) ซึ่งจะแผ่กระจายออกไปรอบๆ จนครอบคลุมก้อนมะเร็งทั้งก้อน จากการศึกษาพบว่าความร้อนที่มากกว่า 50 องศาเซลเซียสสามารถทำให้เซลล์ตายได้ ก้อนมะเร็งที่ได้รับการรักษาจะเปรียบเสมือนเนื้อย่าง
RFA ใช้สำหรับการรักษามะเร็งตับ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เกี่ยวกับจำนวน ขนาด และตำแหน่งของก้อนมะเร็ง คือ ต้องมีจำนวนก้อนไม่เกิน 3 ก้อน ขนาดไม่เกิน 5 เซนติเมตร ตำแหน่งต้องไม่อยู่ในที่ที่จะเกิดอันตรายจากความร้อนสู่อวัยวะใกล้เคียง ก่อนการรักษาด้วยวิธีนี้ต้องเช็คเลือดก่อนว่าผู้เป็นมะเร็งนั้นมีภาวะการแข็งตัวของเลือดเป็นปกติหรือไม่ ถ้าผิดปกติต้องแก้ไขก่อน
การรักษาวิธีนี้จะใช้อัลตราซาวด์เป็นเครื่องมือนำทาง ผู้ป่วยจะได้รับยาชาเฉพาะที่ ไม่ดมยาสลบ โดยมีทีมวิสัญญีเป็นผู้ดูแล ระยะเวลาการทำขึ้นกับว่าการวางเข็มกี่ตำแหน่ง ทำการย่างกี่ชุด โดยเฉลี่ยการวางเข็ม 1 ตำแหน่ง รวมการย่าง 1 ชุด ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที หลังขั้นตอนในห้องผ่าตัด ทีมวิสัญญี และทีมห้องผ่าตัดจะสังเกตอาการอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนส่งผู้ได้รับการรักษากลับห้องพัก หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ ในวันต่อมา
การรักษาด้วยวิธี RFA ได้ผลดีในผู้ที่มีก้อนมะเร็งขนาดเล็ก จะทำให้มีอัตราการมีชีวิตอยู่รอดยาวถึง 3-5 ปี ได้มากกว่าผู้ที่มีก้อนขนาดใหญ่
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง