การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง ตรวจอย่างไร ตรวจบ่อยแค่ไหน?
วันที่ 15-08-2025 | อ่าน : 9
มะเร็งเต้านม เกิดจากอะไร
มะเร็งเต้านมเกิดการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนมทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอก มะเร็งจะโตขึ้นและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ก่อนที่จะกระจายไปอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก
ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม
- การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
- อายุที่มากขึ้น (เริ่มพบได้บ่อยตั้งแต่อายุ 40-50 ปี)
- ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่กินยาฮอร์โมนทดแทน
- การมีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ เนื่องจากอาจสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านมชนิดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- การรับประทานอาหารจำพวกอาหารหมักดอง อาหารแปรรูป
- ผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน
อาการและสัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม
- รูปร่างหรือขนาดเต้านมเปลี่ยนไปจากเดิม
- รู้สึกเหมือนมีก้อนหรือถุงน้ำขนาดประมาณเม็ดถั่วในเต้านมได้ด้วยการสัมผัส
- รู้สึกถึงก้อนที่หนาขึ้นภายในเต้านมหรือใกล้ ๆ วงแขนและสัมผัสได้ว่าคงสภาพอยู่ตลอดรอบประจำเดือน
- สัมผัสได้ถึงก้อนหรือเนื้อแข็ง ๆ เป็นวงกว้างใต้ผิวเต้านม
- สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวเต้านมหรือหัวนม เช่นเกิดรอยบุ๋ม ย่น ผิวเป็นสะเก็ด หรืออักเสบ ร่องรอยที่พบอาจมีสีแดง ม่วง หรือสีเข้มกว่าส่วนอื่น ๆ บนเต้านม
- มีเลือดหรือของเหลวใสไหลออกมาจากเต้านม
.jpg)
วิธีการตรวจมะเร็งเต้านมมีอะไรบ้าง
การตรวจมะเร็งเต้านมแบบ Mammogram
เป็นการตรวจทางรังสีชนิดพิเศษคล้ายกับการตรวจเอกซเรย์ ด้วยเทคโนโลยีแมมโมแกรม 3 มิติ ภาพเอกซเรย์มีความคมชัด สามารถแยกความแตกต่างของไขมันและเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจพบก้อนเนื้อ เห็นความหนาแน่นของเนื้อเต้านมที่ผิดปกติ
อัลตร้าซาวด์เต้านม
เป็นการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปในเนื้อเต้านม เมื่อคลื่นเสียงกระทบกับเนื้อเยื่อต่างๆ จะสะท้อนกลับขึ้นมาที่เครื่องตรวจ ทำให้สามารถตรวจจับความแตกต่างของเนื้อเยื่อปกติกับก้อนในเต้านมได้ อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบได้ว่า ก้อนในเต้านมนั้นมีองค์ประกอบเป็นน้ำหรือเป็นก้อนเนื้อ เพื่อแยกความผิดปกติของก้อนที่พบได้เบื้องต้น
.jpg)
ควรตรวจมะเร็งเต้านมตอนไหน
- ตรวจอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เมื่ออายุ 20 ปี ขึ้นไป
- ตรวจเต้านมโดยแพทย์ ควรรับการตรวจทุก 3 ปี
- ควรทำแมมโมแกรม และ/หรือ อัลตราซาวน์ ในช่วงอายุ 35- 40 ปี 1 ครั้ง หลังจากอายุ 40 ปี เป็นต้นไป ควรทำทุก 1 – 2 ปี
- ในผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ ควรเริ่มทำการตรวจตั้งแต่อายุที่ญาติเป็น ลบออก 5 ปี
- ในรายที่มีความเสี่ยงสูง หรือเต้านมมีความหนาแน่นมาก การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) จะช่วยให้มีการค้นพบมะเร็งได้มากขึ้นกว่าการทำแมมโมแกรม
วิธีตรวจมะเร็งเต้านมเบื้องต้นด้วยตัวเอง
- ยืนหน้ากระจก แล้วดูที่เต้านมทั้ง 2 ข้าง แล้วสังเกตว่า ขนาด รูปร่าง สีผิว ตำแหน่งของเต้านม หัวนม เป็นอย่างไร
- หลังจากนั้นให้ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะทั้ง 2 ข้าง แล้วดูที่เต้านมอีกครั้ง ค่อย ๆ หมุนตัวช้า ๆ เพื่อที่จะดูบริเวณด้านข้างของเต้านม
- มือเท้าเอว และโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ดูความเปลี่ยนแปลงซ้ำอีกครั้ง
- ใช้นิ้วมือบีบที่หัวนมเบาๆ ดูว่ามีเลือด หนอง หรือน้ำไหลออกจากหัวนมหรือไม่
- เริ่มคลำเต้านม ให้คลำตั้งแต่กระดูกไหปลาร้าลงมา ใช้มือซ้ายคลำเต้านมข้างขวา ให้ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางทั้ง 3 นิ้ว ค่อย ๆ กดลงบนผิวหนังเบา ๆ และกดแรงขึ้น จนกระทั่งสัมผัสกระดูกซี่โครงคลำเต้านมให้ทั่วทิศทาง การคลำทำได้หลายแบบ สิ่งที่สำคัญคือต้องคลำให้ทั่วเต้านมไปจนถึงบริเวณรักแร้ใต้วงแขน หลังจากนั้นให้เปลี่ยนคลำอีกข้างแบบเดียวกัน
- เมื่อเสร็จการคลำในท่ายืนแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นคลำในท่านอนใช้หมอนหนุนไหล่ข้างที่จะคลำ แล้วคลำซ้ำเหมือนท่ายืน
ควรตรวจมะเร็งเต้านมบ่อยแค่ไหน?
- ตรวจเป็นประจำทุกเดือน
- ตรวจหลังประจำเดือนมา 7 – 10 วัน นับจากวันแรกของการมีประจำเดือน
- ตรวจวันเดียวกันของทุกเดือน ถ้าคุณไม่มีประจำเดือนแล้ว
หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง