ประโยชน์ของ กระเจี๊ยบเขียว ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย

วันที่ 10-01-2024 | อ่าน : 138


ประโยชน์ของ กระเจี๊ยบเขียว ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย

ประโยชน์ของ กระเจี๊ยบเขียว ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย

ประโยชน์ของ กระเจี๊ยบเขียว ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย

     กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และใยอาหาร ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียวมีดังนี้

  • ช่วยลดน้ำตาลในเลือด กระเจี๊ยบเขียวมีสารประกอบที่เรียกว่า ไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenes) ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ลดอาการท้องผูก กระเจี๊ยบเขียวมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในการดูดซับน้ำและทำให้อุจจาระอ่อนตัวขึ้น ช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
  • ลดคอเลสเตอรอล กระเจี๊ยบเขียวมีสารประกอบที่เรียกว่า โพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด โดยยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้
  • ป้องกันโรคกระเพาะอาหาร กระเจี๊ยบเขียวมีสารประกอบที่เรียกว่า แทนนิน (Tannins) ซึ่งมีคุณสมบัติในการเคลือบกระเพาะอาหาร ช่วยป้องกันไม่ให้กรดในกระเพาะอาหารกัดกร่อนเยื่อบุกระเพาะอาหาร
  • ต้านอนุมูลอิสระ กระเจี๊ยบเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น สารกลูต้าไธโอน (Glutathione) สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) และสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคอื่นๆ
  • บำรุงผิวพรรณ กระเจี๊ยบเขียวมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง
  • บำรุงสมอง กระเจี๊ยบเขียวมีวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินบี 3 ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง
  • บำรุงกระดูก กระเจี๊ยบเขียวมีธาตุแคลเซียมสูง ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

     นอกจากนี้ กระเจี๊ยบเขียวยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น รักษาโรคพยาธิตัวจี๊ด ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ และช่วยในการสมานแผลภายในของสตรีหลังการคลอดบุตร

     วิธีรับประทานกระเจี๊ยบเขียว สามารถรับประทานสด ต้ม แกง หรือทำเป็นเครื่องดื่ม เช่น น้ำกระเจี๊ยบเขียว น้ำกระเจี๊ยบเขียวปั่น เป็นต้น นอกจากนี้ให้นำกระเจี๊ยบเขียวมาหั่น ตากแดด พอแห้งแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นตักผงกระเจี๊ยบเขียว 1 ช้อนโต๊ะ มาละลายในน้ำต้มสุก นม น้ำผลไม้ หรืออาหารอ่อนๆ กินวันละ 3-4 ครั้งหลังอาหาร จะทำให้ได้รับสารอาหาร และประโยชน์อย่างครบถ้วน กระเจี๊ยบเขียวมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน รับประทานง่าย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

อาหารผู้ป่วยมะเร็ง
การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
การรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้