อัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ คัดกรองป้องกันโรคร้าย ตรวจง่ายเห็นชัด

วันที่ 25-01-2024 | อ่าน : 237


อัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ คัดกรองป้องกันโรคร้าย ตรวจง่ายเห็นชัด

อัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ คัดกรองป้องกันโรคร้าย ตรวจง่ายเห็นชัด

อัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ คัดกรองป้องกันโรคร้าย ตรวจง่ายเห็นชัด

     มดลูกและรังไข่ เป็นอวัยวะสำคัญในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ทำหน้าที่ในการรองรับการตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกน้อย นอกจากนี้รังไข่ยังทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งเกี่ยวข้องการกับการมีประจำเดือน ดังนั้นผู้หญิงทุกคนจึงควรใส่ใจและให้ความสำคัญกับการตรวจภายใน เพราะ 2 อวัยวะสำคัญนี้อาจมีโรคร้ายที่กำลังก่อตัวโดยยังไม่แสดงอาการ โดยเฉพาะโรค ‘มะเร็งปากมดลูก’ และ ‘มะเร็งรังไข่’ ที่หากตรวจพบเร็วก็มีโอกาสรักษาให้หายได้ และวิธีตรวจที่ทำให้พบโรคได้ในระยะเริ่มแรก ก็คือการตรวจภายใน ร่วมกับตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ นั่นเอง

การตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ สำคัญอย่างไร?

     ผู้ที่มีอาการปวดท้องน้อยบ่อยๆ มีประจำเดือนผิดปกติ หรือแม้แต่ไม่มีอาการใดๆ แต่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ก็ควรให้ความสำคัญกับการตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ เพราะเป็นการตรวจที่มีประโยชน์ เห็นรอยโรคได้ชัด และสามารถตรวจพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับมดลูกและรังไข่ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เช่นโรคเหล่านี้

  • ถุงน้ำรังไข่ (Ovarian cyst) : เป็นถุงน้ำที่เจริญเติบโตในรังไข่ อาจเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน หรือเกิดจากการอักเสบติดเชื้อ ผู้ป่วยโรคถุงน้ำรังไข่จะรู้สึกปวดหน่วงท้องน้อย บางรายอาจปัสสาวะบ่อยขึ้นจากการที่ถุงน้ำมีขนาดใหญ่จนไปเบียดพื้นที่ของกระเพาะปัสสาวะ หรือรู้สึกหน้าท้องโตขึ้นได้
  • เนื้องอกรังไข่ (Ovarian tumor) : เป็นก้อนเนื้อที่เจริญเติบโตในรังไข่ อาจเกิดจากเซลล์ธรรมดาหรือเซลล์มะเร็ง ส่งผลให้ประจำเดือนมาผิดปกติ ปวดท้องเฉียบพลัน ปัสสาวะบ่อยขึ้น หรือท้องผูกเรื้อรังเนื่องจากเนื้องอกไปกดเบียดลำไส้
  • เนื้องอกมดลูก (Uterine tumor) : เป็นก้อนเนื้อที่เจริญเติบโตในมดลูก อาจทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนมาก ประจำเดือนมามาก ปวดท้องน้อย หรือปัสสาวะบ่อย
  • ก้อนเนื้อภายในอุ้งเชิงกราน (Pelvic mass) : เป็นก้อนเนื้อที่เจริญเติบโตภายในอุ้งเชิงกราน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งในบริเวณมดลูกหรือรังไข่ ทำให้ประจำเดือนมามากหรือมานาน เลือดออกผิดปกติ มดลูกโต หรือมีปัญหาแท้งบุตรบ่อย เกิดภาวะมีบุตรยาก
  • มะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer) : เป็นโรคที่เกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์เนื้อเยื่อบริเวณรังไข่หรือท่อนําไข่ หากไม่ได้รับการตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เมื่อเซลล์มะเร็งเจริญเติบโตจนมีขนาดใหญ่ จะสามารถแพร่กระจายไปตามเยื่อบุช่องท้อง ทางเดินนํ้าเหลือง กระแสโลหิต และอวัยวะอื่นๆ ได้
  • มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer) : สาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูก คือการได้รับเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus) โดยเชื้อนี้จะค่อยๆ ใช้เวลาหลายปีในการแพร่พันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และกระตุ้นให้เซลล์บริเวณปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติจนกลายเป็นโรคมะเร็งในที่สุด ซึ่งนอกจากการตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบ Thin Prep ที่แพทย์จะทำการเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกไปตรวจหาเชื้อมะเร็งแล้ว การอัลตราซาวด์มดลูกก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

อัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ มีวิธีการตรวจอย่างไร?

การตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ แบ่งออกได้เป็น 2 วิธีหลักๆ คือ

1. การตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ผ่านทางหน้าท้อง (Transabdominal ultrasound)

     ในขั้นตอนการตรวจ ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องดื่มน้ำแล้วกลั้นปัสสาวะเอาไว้จนในกระเพาะปัสสาวะมีปริมาณน้ำปัสสาวะมากพอ เพื่อให้สามารถมองเห็นมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจนขึ้น โดยแพทย์จะทาเจลหล่อลื่นบริเวณหน้าท้อง และใช้หัวตรวจอัลตราซาวด์กดเบาๆ แล้วเคลื่อนไปในบริเวณหน้าท้องที่ต้องการตรวจ เพื่อให้เห็นภาพอวัยวะภายในผ่านจอมอนิเตอร์

2. การตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ผ่านทางช่องคลอด (Transvaginal ultrasound)

     ในการตรวจ แพทย์จะสอดอุปกรณ์หัวตรวจอัลตราซาวด์เข้าไปในช่องคลอด โดยผู้เข้ารับการตรวจจะต้องนอนหงายหรือนอนตะแคง เข่าชันชิดหน้าอก หรือนอนบนขาหยั่ง วิธีนี้จะทำให้เห็นภาพอวัยวะภายในจากหน้าจอมอนิเตอร์ได้ชัดเจนและให้ความแม่นยำกว่าการตรวจผ่านทางหน้าท้อง

     ข้อดีของการตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ คือมีความปลอดภัย ไม่ต้องใช้รังสีเอกซเรย์ ใช้เวลาตรวจไม่นาน และสามารถตรวจได้ทั้งการคัดกรองและติดตามผลได้บ่อยตามต้องการ ทั้งนี้ การตรวจด้วยวิธีผ่านทางช่องคลอดอาจมีผลข้างเคียงชั่วคราว เช่น รู้สึกไม่สบายตัวบริเวณหน้าท้องหรือช่องคลอดได้

ใครบ้าง? ที่เสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่

  • ผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูก หรือมะเร็งรังไข่
  • ผู้ที่ไม่เคยมีบุตร เพราะไม่มีช่วงว่างเว้นจากการตกไข่ขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โดยกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ที่เกิดขึ้นหลังการตกไข่ของรังไข่ที่บ่อยกว่า เป็นการเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งรังไข่ได้มากขึ้น
  • ผู้ที่สูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่เป็นประจำ เพราะสารพิษจากควันบุหรี่จะทำให้ DNA ของเซลล์ในบริเวณปากมดลูกเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้
  • ผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเกินมาก เพราะเซลล์เนื้อเยื่อไขมันจะไปเพิ่มการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดมะเร็งปากมดลูกและรังไข่
  • ผู้ที่มีอาการผิดปกติต่อไปนี้ เช่น คลำพบก้อนที่หน้าท้อง รู้สึกปวด ตึง แน่นท้อง หรือปวดท้องน้อยเป็นประจำ ตกขาวมีกลิ่นและมีมูกเยอะกว่าปกติ ประจำเดือนมาผิดปกติ มามาก ปวดประจำเดือนมาก หรือปัสสาวะบ่อย

ต้องเตรียมตัวอย่างไร? ก่อนตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่

  • ไม่ควรดื่มน้ำปริมาณมาก และควรปัสสาวะออกให้หมดก่อนตรวจ
  • งดเข้ารับการตรวจขณะที่มีประจำเดือน โดยช่วงที่เหมาะสมในการตรวจ คือ หลังประจำเดือนหมด 5-7 วัน

     การตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่เป็นการตรวจที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิง เพราะจะช่วยตรวจพบความผิดปกติที่อาจมีซ่อนอยู่ในมดลูกและรังไข่ได้เร็วก่อนมีอาการ โดยการพบรอยโรคหรือพบความเสี่ยงตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เกิดการป้องกันและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที มีโอกาสหายจากโรคสูง โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ ซึ่งเป็นโรคที่รักษาได้หากพบเร็วก่อนระยะลุกลาม


ขอขอบคุณข้อมูล โรงพยาบาลเปาโล

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

อาหารผู้ป่วยมะเร็ง
การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
การรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้