โภชนาการสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง กินอย่างไรให้มีแรงสู้โรค

วันที่ 07-07-2025 | อ่าน : 14


โภชนาการสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง กินอย่างไรให้มีแรงสู้โรค

โภชนาการสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูและเสริมสร้างสมดุลของร่างกายโดยรวม ลดผลข้างเคียงการรักษา เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โภชนาการ: หัวใจสำคัญในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

เมื่อเผชิญหน้ากับโรคมะเร็ง การรักษาทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ โภชนาการ การได้รับสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ผู้ป่วยมีพลังงานเพียงพอที่จะต่อสู้กับโรค ลดผลข้างเคียงจากการรักษา และฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้น ในทางกลับกัน หากผู้ป่วยขาดสารอาหาร อาจทำให้อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ภูมิคุ้มกันต่ำลง และการรักษามีประสิทธิภาพลดลง

ทำไมโภชนาการจึงสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง?

  • เสริมสร้างพลังงาน: การรักษามะเร็ง เช่น เคมีบำบัด ฉายรังสี หรือการผ่าตัด มักทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและใช้พลังงานสูง การได้รับสารอาหารที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานสำหรับฟื้นฟูตัวเอง
  • รักษาน้ำหนักตัว: ผู้ป่วยมะเร็งหลายคนมีปัญหาเรื่องน้ำหนักลดลง ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงและภูมิคุ้มกัน การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น
  • ลดผลข้างเคียงจากการรักษา: สารอาหารบางชนิดสามารถช่วยบรรเทาอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือแผลในปากได้
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็งและป้องกันการติดเชื้อ
  • ฟื้นฟูร่างกาย: หลังจากการรักษา ร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อที่เสียหาย

หลักการโภชนาการสำหรับผู้ป่วยมะเรง

  1. โปรตีนเพียงพอ: โปรตีนเป็นหัวใจสำคัญในการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แหล่งโปรตีนที่ดี ได้แก่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ นม ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากนม
  2. คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: เป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ธัญพืชไม่ขัดสี เพื่อให้พลังงานอย่างต่อเนื่องและมีใยอาหารช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
  3. ไขมันดี: เลือกไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืช และปลาที่มีไขมันดี (ปลาทะเลน้ำลึก)
  4. ผักและผลไม้หลากสี: อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบ ควรเลือกผักผลไม้สดที่หลากหลาย
  5. น้ำเปล่า: ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจเกิดจากการรักษา เช่น อาเจียน หรือท้องเสีย

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัด

  • อาหารแปรรูป: เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เนื่องจากมีโซเดียมและสารกันบูดสูง
  • อาหารไขมันสูง: โดยเฉพาะไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวสูง อาจทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย
  • น้ำตาลและเครื่องดื่มรสหวาน: การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายและภูมิคุ้มกัน
  • แอลกอฮอล์: ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจส่งผลต่อการทำงานของตับและมีผลกระทบกับการรักษา
  • อาหารดิบหรือไม่สุก: เช่น ซูชิ ไข่ดิบ หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ เนื่องจากผู้ป่วยอาจมีภูมิคุ้มกันต่ำ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพื่อรับมือผลข้างเคียง

  • คลื่นไส้ อาเจียน: เลือกอาหารอ่อน ย่อยง่าย กินทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง เลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง หรือมัน
  • เบื่ออาหาร: กินอาหารที่ชอบและกระตุ้นความอยากอาหาร ลองเสริมด้วยอาหารเหลวที่มีโปรตีนและพลังงานสูง
  • ปากแห้ง แผลในปาก: เลือกอาหารอ่อนนุ่ม ไม่รสจัด ดื่มน้ำบ่อยๆ หรือดูดน้ำแข็งเล็กน้อย
  • ท้องเสีย: ดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทน เลือกอาหารที่ย่อยง่าย กล้วย ข้าวต้ม หรือโจ๊ก

โภชนาการที่ดีเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีกำลังใจและกำลังกายในการต่อสู้กับโรค และช่วยให้การรักษาได้ผลดีที่สุด หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล

 

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ความรู้มะเร็ง
การดูแลผู้ป่วย
การรักษามะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้