มะเร็งในวัยรุ่น: สัญญาณเตือนที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

วันที่ 21-05-2025 | อ่าน : 22


มะเร็งในวัยรุ่น: สัญญาณเตือนที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

เมื่อพูดถึงมะเร็ง หลายคนอาจนึกถึงโรคที่พบในผู้สูงอายุ แต่ในความเป็นจริง วัยรุ่นก็มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งได้ เช่นกัน! มะเร็งในวัยรุ่นบางชนิดอาจมีอาการคล้ายโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรือปวดเมื่อย ทำให้พ่อแม่และตัววัยรุ่นเองอาจมองข้ามจนอาการลุกลาม

มะเร็งที่พบบ่อยในวัยรุ่น ได้แก่ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง, มะเร็งกระดูก, มะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย), และมะเร็งสมอง ซึ่งหากตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาหายก็สูง

มะเร็งในวัยรุ่นพบได้บ่อยแค่ไหน?

แม้มะเร็งในวัยรุ่นจะไม่ใช่โรคที่พบมากเท่ากลุ่มผู้ใหญ่ แต่ข้อมูลจาก Global Cancer Observatory (GLOBOCAN) พบว่า วัยรุ่นอายุ 15-19 ปี มีอัตราการเกิดมะเร็งประมาณ 150-200 รายต่อล้านคนต่อปี โดยมะเร็งที่พบบ่อยในวัยรุ่นไทย ได้แก่:

  • มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
  • มะเร็งกระดูก (Osteosarcoma)
  • มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)
  • มะเร็งสมองและระบบประสาท (Brain Tumors)
  • มะเร็งอัณฑะหรือรังไข่ (Germ Cell Tumors)

ทำไมวัยรุ่นถึงเป็นมะเร็งได้?
ปัจจัยเสี่ยงบางอย่าง เช่น:

  • พันธุกรรม (ครอบครัวมีประวัติมะเร็ง)
  • การติดเชื้อไวรัส (เช่น EBV ที่เชื่อมโยงกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง)
  • รังสีหรือสารเคมี (เช่น การสัมผัสรังสีปริมาณสูง)
  • ภูมิคุ้มกันผิดปกติ

7 สัญญาณเตือนมะเร็งในวัยรุ่นที่พ่อแม่ต้องสังเกต

หลายอาการของมะเร็งในวัยรุ่นคล้ายกับโรคทั่วไป เช่น ไข้หวัดหรืออ่อนเพลียจากการเรียน ทำให้พ่อแม่อาจไม่ทันระวัง นี่คือ อาการน่าสงสัยที่ควรพบแพทย์: มีก้อนเนื้อหรือต่อมน้ำเหลืองโต

  • พบบ่อยในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • สังเกตได้จาก:
    • ก้อนที่คอ รักแร้ ขาหนีบ โตขึ้นเรื่อยๆ และไม่หายภายใน 2-4 สัปดาห์
    • ก้อนแข็ง ไม่เคลื่อนที่ และอาจไม่เจ็บ

ปวดกระดูกหรือข้อต่อเรื้อรัง

  • อาจเป็นสัญญาณของ มะเร็งกระดูก (Osteosarcoma) หรือมะเร็งที่แพร่กระจายสู่กระดูก
  • สังเกตได้จาก:
    • ปวดตอนกลางคืนหรือปวดแม้ไม่ได้ใช้งาน
    • อาการไม่ดีขึ้นหลังกินยาแก้ปวด

อ่อนเพลียผิดปกติ ซีด หรือเลือดออกง่าย

  • อาจเป็นอาการของ มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)
  • สังเกตได้จาก:
    • ซีด เหนื่อยง่ายผิดปกติ
    • มีจ้ำเลือดหรือเลือดออกตามผิวหนัง
    • เลือดกำเดาไหลบ่อย

ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ ตาพร่ามัว

  • อาจเป็นสัญญาณ มะเร็งสมอง
  • สังเกตได้จาก:
    • ปวดหัวตอนเช้าหรือปวดจนอาเจียน
    • มีปัญหาการมองเห็นหรือเดินเซ

น้ำหนักลดฮวบโดยไม่ทราบสาเหตุ

  • หากน้ำหนักลด เกิน 10% ของน้ำหนักตัวภายใน 3-6 เดือน โดยไม่ได้ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย อาจเป็นสัญญาณมะเร็ง

มีไข้เรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ

  • ไข้สูงๆ ต่ำๆ นานเกิน 2 สัปดาห์ โดยไม่พบการติดเชื้อ

การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังหรือไฝ

  • หากไฝหรือจุดบนผิวหนัง ขยายขนาดเร็ว มีสีไม่สม่ำเสมอ หรือมีแผลเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณมะเร็งผิวหนัง (Melanoma)

วิธีตรวจหามะเร็งในวัยรุ่นเร็วที่สุด

หากพบอาการน่าสงสัย แพทย์อาจใช้วิธีตรวจดังนี้:

  • ตรวจเลือด (ดูความผิดปกติของเม็ดเลือด)
  • อัลตราซาวนด์หรือ CT Scan (ดูก้อนเนื้อ)
  • ตัดชิ้นเนื้อตรวจ (Biopsy)
  • ตรวจไขกระดูก (หากสงสัยมะเร็งเม็ดเลือด)

ป้องกันมะเร็งในวัยรุ่นได้อย่างไร?

แม้บางปัจจัย (เช่น พันธุกรรม) เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ลดความเสี่ยงด้วยวิธีเหล่านี้:

  • หลีกเลี่ยงรังสี UV (ทาครีมกันแดด ป้องกัน Melanoma)
  • กินอาหารมีประโยชน์ (ลดเนื้อแดงแปรรูป เพิ่มผักผลไม้)
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์
  • ฉีดวัคซีน HPV (ป้องกันมะเร็งปากมดลูกและบางชนิด)

มะเร็งในวัยรุ่นอาจพบไม่บ่อย แต่หากพบช้า อาจรักษายาก ดังนั้น พ่อแม่ควรสังเกตอาการผิดปกติเรื้อรัง โดยเฉพาะหากมี ก้อนเนื้อโตเร็ว, ปวดกระดูกไม่ทราบสาเหตุ, หรืออ่อนเพลียผิดปกติ และรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ หากตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาหายก็สูงขึ้น!

 

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ความรู้มะเร็ง
การดูแลผู้ป่วย
การรักษามะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้