เรื่องจริงจากลูกคนหนึ่ง

วันที่ 27-06-2011 | อ่าน : 6711



\"\"          

           เรื่องจริงจากลูกคนหนึ่ง         
                                              
         คุณวันเพ็ญ  ไกรสิทธิ์
       ญาติผู้ป่วยมะเร็งสมอง

          

        คุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งสมองค่ะ  ก่อนหน้านั้นเราจะเห็นว่าท่านป่วยตลอด แต่เรามารู้จริงๆ ว่าเป็นมะเร็งก็อยู่ระยะ  4  ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายแล้วตอนปี  2549    

        ก่อนที่จะรู้ว่าคุณแม่เป็นมะเร็งสมอง ตอนนั้นคุณแม่มีอาการปวดศีรษะมาก และมีอาการชาที่มือและขาด้านขวา ที่เห็นเด่นชัดก็คือตอนที่ใส่รองเท้าขาไม่สามารถที่จะประคองเท้าได้  เวลาหยิบแก้วๆ ก็ร่วงจากมือ มันเป็นอาการที่เด่นชัด และก็เวลาปวดศีรษะจะปวดอย่างรุนแรง  ก็เลยพาคุณแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นคุณหมอก็ให้ยาพาราเซตามอลมาทานสักระยะหนึ่งประมาณเดือนหนึ่งเพื่อประเมินอาการ  แต่ทานพาราเซตามอลแล้วก็ไม่ดีขึ้น ก็เลยให้ซีทีสแกนถึงได้รู้ว่าเป็นเนื้องอกในสมอง 

        พอเรารู้ว่าคุณแม่เป็นมะเร็งเราเสียใจมากเลยค่ะ  ทำงานอยู่ก็วูบไปเลยจนเพื่อนที่ทำงานอยู่ด้วยกันตกใจว่าเราเป็นอะไร  เรารับไม่ได้กับเรื่องพวกนี้ เพราะเท่าที่รู้ที่ฟังมาคนเป็นเนื้องอกในสมองโอกาสเสียชีวิตมีมาก  คุณแม่เป็นเนื้องอกในสมองขนาด  7  ซม. แต่ยังโชคดีที่ไม่ทำให้เป็นอัมพาต 

        หลังจากนั้น  7  วัน  คุณหมอให้ผ่าตัดเลย แต่เรายังลังเลอยู่เพราะว่าคุณหมอบอกว่ามีโอกาสจะเสียชีวิตจากการผ่าตัดถึง  20%  ทางเราก็เลยปรึกษากันว่าไม่ผ่าตัดได้ไหม  คุณหมอบอกว่าไม่ผ่าตัดไม่ได้ เราก็จำเป็นต้องให้ผ่า  แต่ผ่าตัดเสร็จแล้วก็เอาเนื้องอกออกไม่ได้ เพราะเป็นเนื้องอกชนิดที่ผ่าออกไม่ได้  ก็เลยปิดแผลโดยเอากะโหลกศีรษะออก เพื่อไม่ให้คนไข้ปวดศีรษะมากขึ้น  คุณแม่พักรักษาตัวได้หนึ่งเดือน เมื่อแผลหายคุณหมอก็ส่งเข้าไปฉายแสงต่อ การฉายแสงไม่ใช่การรักษาให้หายขาด แต่เป็นการพยุงคนไข้ให้อายุยืนมากยิ่งขึ้น  ดิฉันก็ยอมนะคะ เพราะเราอยากจะอยู่กับคุณแม่ให้นานที่สุดดีกว่าไม่ได้ดูแลท่านเลย ระหว่างการฉายแสง เราก็ศึกษาในเรื่องวิธีการดูแลคนไข้ด้วยการฉายแสง และก็พยายามหาอาหาร  ยา  หรือว่าสมุนไพรต่างๆ  ให้ท่านทานเพื่อที่จะให้ท่านต่อต้านกับการฉายแสงได้  เราให้คุณแม่ทานยาน้ำสมุนไพรเทียนเซียนในระหว่างที่ผ่าตัดและฉายแสงด้วย จนสุดท้ายแล้วท่านก็ผ่านพ้นไปได้ 

       เมื่อจบการฉายแสงแล้วก็กลับมาที่บ้านประมาณ  8 เดือน  เนื้องอกก็กลับมาอีก ทำให้ท่านสูญเสียการทรงตัว ล้มนอนอยู่ที่บ้านได้อย่างเดียวเป็นเวลา 2 เดือน  ระหว่างนั้นก็เกิดมีอาการแผลกดทับขึ้นมาอีก คือ จะมีเนื้อด้านๆ เกิดขึ้นมาหลังก้นกบ ตอนแรกดิฉันไม่ทราบเพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน  บังเอิญตอนนั้นขณะดูแลคุณแม่อยู่ มันมีกลิ่นก็พยายามหาว่ากลิ่นมันมาจากตรงไหนแต่ก็หาไม่เจอ  คิดว่าตรงนี้มันด้านๆ อยู่น่าจะอับชื้นก็เลยหาเตียงที่มีร่องเพื่อให้ไม่อบ  พอเอาท่านลงปุ๊บมันก็ไปกดแผลด้านในที่มันด้านๆ ดันออกมา ดิฉันจึงรู้ว่าเป็นแผลกดทับ จึงส่งตัวคุณแม่เข้ามารักษาอีกครั้งที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นต้องผ่าตัดอีกรอบหนึ่ง  เพราะว่าต้องกว้านเอาตรงที่เป็นแผลกดทับออก  หลังจากผ่าตัดคุณแม่ก็ไม่ค่อยดี  ต้องใช้ออกชิเจนประคองมาตลอด เรียกว่าหลังจากผ่าตัดครั้งหลังสุดร่างกายก็ทรุดลงมาโดยตลอด และก็เข้ารับการดูแลจากโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง  อยู่ได้ประมาณ  1  เดือนท่านก็เสียชีวิตเมื่อปี 2551

       โรคมะเร็ง  เป็นเซลส์เนื้อดีในร่างกายเราที่เปลี่ยนสภาพเป็นเซลส์เนื้อร้าย  ปัจจุบันไม่มียารักษาให้หายขาดได้  และเมื่อเป็นแล้วต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการของโรคที่เกิดขึ้น  แต่ขอให้คุณอย่าสิ้นหวังเพราะถ้าเรารู้จักดูแลสุขภาพ พยายามสร้างภูมิคุ้มกันโรคทางกาย และมีจิตใจที่เข้มแข็งสู้กับโรคร้ายที่เป็นอยู่ รวมทั้งกำลังใจจากคนรอบข้าง คุณจะเป็นคนหนึ่งที่สามารถพิชิตโรคมะเร็งได้อย่างแน่นอน ดิฉันคิดว่ามะเร็งมีหนทางที่จะรักษาได้อย่าพึงท้อถอย  ถ้าคุณมีคนที่คุณรัก  ให้คุณดูแลเอาใจใส่ท่านตั้งแต่ท่านยังมีสุขภาพแข็งแรง  ไม่ต้องรอให้ท่านแก่  ท่านเจ็บมีโรคร้ายแล้วค่อยดูแล  เพราะเมื่อท่านมีโรคร้ายแล้วจะทำให้ดูแล รักษาได้ยาก อาจทำให้คุณมาเสียใจทีหลัง

       ดิฉันคิดเสมอว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่รักดิฉันเท่ากับคุณพ่อและคุณแม่  เพราะคุณพ่อและคุณแม่ให้ทั้งชีวิต การเลี้ยงดู   อบรม  สั่งสอนให้ดิฉันเป็นคนดีจนถึงทุกวันนี้  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ในครั้งนี้  ดิฉันจะนำความประสบการณ์นี้ถ่ายทอดให้กับคนรอบข้างให้ห่างไกลโรคมะเร็ง  โดยการปรับเปลี่ยนสุขนิสัยในเรื่องการดูแลตนเองก่อนเป็นโรคมะเร็ง คือ
1.อาหาร   2.อากาศ   3.ความเครียด   4.การพักผ่อน   5.  การออกกำลังกาย  
ตอนนี้ดิฉันก็ยังมีคุณพ่อซึ่งก็มีโรคร้ายหลายๆ โรค เหมือนกัน  ดิฉันได้นำความรู้ต่างๆ มาดูแลคุณพ่อ ปัจจุบันได้ผลมาก ทุกอย่างในตัวคุณพ่อสามารถควบคุมได้กลับมาเป็นปกติ 

       สุดท้ายต้องขอขอบพระคุณ  คุณหมอทุกท่านและนางพยาบาล ที่ได้ดูแลคุณแม่ดิฉันเป็นอย่างดีตลอดมา  รวมทั้งต้องขอขอบคุณผู้ผลิตยาน้ำเทียนเซียนที่ช่วยให้คุณแม่ไม่ทรมานกับโรคร้าย ฟื้นฟูสุขภาพในระหว่างรักษาโรค และมีอายุยืนมากขึ้น  ทั้งหมดนี้ คือ ความรู้สึกที่ลูกคนหนึ่งมีต่อบุพการี  อยากบอกแม่ว่ารักแม่มากและจะรักตลอดไป และขอให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคน สู้นะคะ ดิฉันคิดว่าพวกคุณทำได้ค่ะ 

หากมีปัญหาสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง เราคืออีกหนึ่งทางออก ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โปรดคลิก inbox Facebook ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง

อาหารผู้ป่วยมะเร็ง
การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
การรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย 213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 ถ.สุขุมวิท 21(อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1011

Copyright © 2021 www.siamca.com ขอสงวนสิทธิ์ ในการนำรูปภาพ หรือ ข้อความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ หรือ ทำซ้ำ จะต้องได้รับการอนุญาตก่อนจึงจะกระทำได้